wellsbindery

ภาวะบ้านเรา ที่เป็นเมืองร้อน ด้วยแล้ว วิธีลดน้ำหนัก อากาศแปรเปลี่ยน ช่วงของอากาศหนาวเริ่มน้อยลงขึ้นทุกปี บางทีแถบไม่รู้สึกของไอหนาวเข้ามาสัมผัสกายเลยด้วยซ้ำ บางทีพอให้ความเย็นเข้ามาให้รู้สึกก็เพียงไม่นานก็จางหายไป  เรียกว่าอยากหยิบเสื้อผ้าสำหรับหน้าหนาว เตรียมไว้ให้เท่ห์ ทันสมัย  คนขายก็หาเสื้อผ้าเตรียมสำหรับแฟชั่น สวยๆรับหน้าหนาว พลันจะขายไม่ได้กนอีก เพราะ คนซื้อยังไม่กล้ากลัวซื้อแล้วไม่ได้ใส่ เพราะหน้าหนาว จะหนาวกนได้ไปสักกี่วัน

แม้แต่ฤดูฝนก็เริ่มที่จะฝนทิ้งช่วงน้อยลง สมุนไพรลดน้ำหนัก แต่ละปีเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีอย่างเช่นปีนี้ถือว่า ในหัวเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯและปริมณฑล ก็มีฝนลดน้อยลงมาก และความร้อน แสงแดด ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ผู้ที่ใช้ชีวิตดิ้นรนในเมืองหลวง จะเป็นผู้ที่ถูกบั่นทอนจากมลพิษต่างๆรอบตัว  เรียกได้ว่าหายใจไม่เต็มปอด และผู้ที่มีอาคารห้างร้าน บ้านเรือนที่ต้องพักอาศัยใกล้ถนนที่มีรถราจอแจทั้งวัน ยิ่งต้องคอยปิดหน้าตากันทั้งวัน เพราะ ทั้งภาวะเสียงรบกวน และมลพิษ ควันต่างๆฝุ่นละอองต่างๆ สุขภาพที่ไม่มีจากปัญหาฝุ่นละออง มลภาวะของเมืองใหญ่ ทำให้คนในเมืองใช้ชีวิตด้วยการดมฝุ่น ลดน้ำหนัก และทนกับทุกสภาวะอากาศอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

แสงแดดที่ร้อนมากๆ ยิ่งในช่วงฤดูร้อน อาหารเสริมลดน้ำหนัก ของแต่ละปียิ่งลำบากมากๆเพราะยามเที่ยง หรือ ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นด้วยซ้ำ แสงแดดจัดมาก คนเราจึงต้องหาอุปกรณ์ช่วยทั้งต้องมีแว่นกันแดดคอยป้องกันแสงจาก UV  และยังต้องหาเสื้อผ้ากันแดดแขนยาวๆ และดูสบายๆตัว กันอีก เพราะ ช่วยป้องกันได้ทั้งแสง UV ที่จะมากระทบผิวหนัง ทำลายผิวหนัง และยังป้องกันไม่ให้ผิวหนังไหม้เกรียม และความร้อนของแสงแดด  แต่ก็ต้องเลือกเสื้อ ผ้าที่เหมาะ เพราะหากใส่ไม่สบาย ยิ่งปิดมิดชิดยิ่งทำให้ เหงื่อออกมาก ไม่สบายตัว ตลอดทั้งวันได้อีก ความร้อนของแสงแดดในบ้านเราจึง ยาลดน้ำหนัก เป็นปัญหาทวีความรุนแรง มากขึ้นทุกขณะ

ทำให้ อุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มที่จะหันมาผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่ ขับไอเสียให้มี มลพิษต่ำที่สุดมากขึ้น มีระบบรถยนต์กึ่งไฟฟ้ามากขึ้น มีระบบการทำงาน 2 ระบบของเชื้อเพลิงที่เป็นก๊าซธรรมชาติเข้ามาช่วยให้มีผลต่อมลพิษ และการสูดดมลดลงไป อย่างไรก็ตามในเมื่อ ในเมืองตัวดูดซับความร้อนและมลพิษที่ดีจากธรรมชาติ นั่นคือ ต้นไม้ มีน้อย เพราะด้วยความแออัดและคับแคบ จนไม่สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ตามถนนหนทางต่างๆได้มากนัก หากมีก็เพียงบางพื้นที่เท่านั้น แต่ก็ต้องคอยตัดแต่ง กิ่งก้าน ใบบ่อยๆอีกเพราะอาจไปทำให้เกิดปัญหาส่วนอื่นๆตามมาทั้งระบบไฟฟ้า และไปบังป้านต่างๆ หรือบ้านคนได้อีกจึงค่อนข้างเป็นปัญหาพัวพันกันไปหมดทั้งระบบการใช้ชีวิตทีเดียว

เมื่อต้องอยู่ในประเทศที่หนีไม่พ้นกับความร้อนและแสงแดดเพราะเมืองไทยเราอยู่ในเขตของอากาศร้อน จึงต้องยอมรับและหาทางป้องกันแก้ไขตัวเราเอง ความร้อน และแสงแดดจัด บ่อนทำลาย ผิวพรรณอย่างมาก ทำให้ผิวลอก แสบ คัน และเหงื่อไคลที่มาก ส่งผลกระทบทำให้มีกลิ่นตัว และผิวพรรณมีริ้วรอย ซึ่ง กระ และ ฝ้า ก็เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญ มาทำความรู้จัก 2 ตัวนี้กันว่า คืออะไร

กระ คืออะไร กระคือ จุดสีน้ำตาลกลมๆไม่มีรอยนูนเกิดขึ้นบนผิวหนังของเรา ขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยเกิดจากการที่เราสัมผัสกับแสงอาทิตย์เป็นเวลานาน และเกิดได้กับผิวหนังบริเวณต่างๆของร่ายกายโดยเฉพาะผิวหนังที่บอบบาง ซึ่งแต่ละคนจะมีสีของกระแตกต่างกันไปเนื่องจากกระที่เกิดกับตัวเราส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดสี

ประเภทของ กระ ก็แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ กระธรรมดา และกระที่เกิดจากแสงแดดเผา เราต้องลองสำรวจตรวจตราตนเองว่า ผิวหน้า ผิวพรรณส่วนใด เรามีลักษณะดังที่กล่าวมานี้หรือไม่ และต้องดูว่า เป็นเฉพาะช่วงที่ผิวหนังเราได้รับผลกระทบจากแสงแดดเป็นเวลานานๆหรือไม่

ส่วนชอง ฝ้า นั้นมักขึ้นที่บริเวณใบหน้ามีลักษณะสีน้ำตาลดำ อาจจะมีขนาดต่างกันมีตั้งแต่ขนาดเล็กเป็นหย่อมๆจนถึงขนาดใหญ่ บริเวณใบหน้าที่มักเกิดฝ้าได้มากที่สุดมักอยู่บริเวณ โหนกแก้ม สันจมูก และอาจเกิดที่หน้าผาก เพราะส่วนนี้จะกระทบแสงงแดดจัดได้ง่ายและโดยตรงมากที่สุด โดยทั่วไปฝ้ามักเกิดกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปจนถึงผู้สูงอายุ ควรระวังไม่ให้ถูกแดดซ้ำบริเวณที่เกิดฝ้า

ฝ้า แบ่งชนิดออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ ฝ้าแบบตื้น และฝ้าแบบลึก ฝ้าแบบพื้นสามารถรักษาให้หายได้เร็ว แต่ใครที่เป็นฝ้าแบบลึกคงต้องปวดหัวและไม่สบายใจกันหนักเพราะเป็นแล้วจะรักษาให้หายขาดได้ยากมากและบางคนสามารถเป็นฝ้าได้พร้อมๆกันทั้งสองชนิดนั่นคือ จะไม่สามารถทำให้หน้าของเรากลับเกลี้ยงเกลาไร้ฝ้าได้ไปทั้งหมดได้นั่นเอง

สาเหตุของการเกิดฝ้า นอกจากปัจจัยของแสงแดดแล้ว ยังเป็นเรื่องของฮอล์โมนในร่างกาย การใช้ยาและเกิดอาการแพ้ การแพ้เครื่องสำอางและพันธุกรรมซึ่งจากรายงานวิจัยพบว่าสูงถึง 30 – 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

จึงนับว่า กระ และ ฝ้า เป็นสิ่งที่เกิดได้ง่าย และมีปัจจัยจากแสงแดด เพียงแต่ ฝ้า จะเป็นปัญหาสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงาม เพราะมักเกิดบริเวณสำคัญคือใบหน้าของเราเอง อย่างไรก็ตาม ต้องสำรวจตนเองว่าถ้าเป็นแล้ว เป็นฝ้า ชนิดไหน เกิดจากการแพ้ต่างๆของร่างกาย จากการรับประทานยา หรือ เครื่องสำอางหรือไม่ หากแยกแยะได้ และรู้ว่าเป็นอะไรกันแน่ของฝ้าที่เกิดบนใบหน้านั้น ก็จะสามารถเข้ามาดูแลรักษาตนเองถูกวิธีและได้ผลดี นอกเสียจาก หากพบฝ้าเหล่านั้นเป็นชนิดแบบลึกเกิดขึ้นอันนี้ต้องทำใจว่าอาจจะอยู่กับใบหน้าเราไปตลอดเพราะรักษาไม่ได้ วิธีที่ดีที่สุดจึงต้องรู้ว่า เราเป็นอะไร  ที่สำคัญอย่าให้ร่างกายไปกระทบแสงแดดจัดๆเป็นเวลานานๆ ก็จะเป็นตัวช่วยให้เลี่ยงปัญหาได้แล้วระดับหนึ่งส่วนเรื่องอื่นๆ คงต้องดูว่าเมื่อรับประทานยา เครื่องสำอางก็ดี เราควรตรวจสอบดูก่อนว่ามีผลข้างเคียงหรือไม่ ส่วนบาหากรับประทานไปแล้ว หากพบอาการค้างเคียงใดใดให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยว่าแพ้ยาหรือไม่อย่างไร แล้วควรจดบันทึกตัวยาต่างๆที่เราแพ้ให้กับตัวเอง เวลาซื้อยามารับประทานเองต่อๆไปก็จะได้ทราบได้ว่ายาชนิดอะไรบ้างที่เราไม่ควรรับประทาน เท่านี้ก็สามารถแยกว่าเราเกิดฝ้าจากสาเหตุใดใดได้แล้ว

ผิวขาวใส ดูอิ่มน้ำ อย่างเป็นธรรมชาติ ชาดาวอินคา วิธีนี้จากการที่ได้มีผู้ทดลองมาแล้ว พบว่าเป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์เป็นอย่างดี เห็นผลได้ชัดเจนว่าผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้นเมื่อทำตามอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือเป็นวิธีที่เรียกได้ว่า ประหยัดมาก เพราะไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียวสำหรับการซื้อเครื่องสำอางค์ประทินผิว ไม่ต้องซื้ออาหารเสริมผิวขาวมารับประทานให้มีผลต่อตับ วิธีนี้ก็คือการดื่มน้ำในตอนเช้า 2 แก้วทันทีหลังตื่นนอน

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วนะคะว่า ชาสมุนไพรดาวอินคา ผู้เชี่ยวชาญมากมายหลายท่านแนะนำให้คนเราดื่มสะอาดที่ไม่มีการผสม ไม่มีการปรุงแต่งกลิ่นใดๆ ซึ่งหมายถึง “น้ำเปล่า” นั่นเอง ให้ดื่มให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือก็ประมาณวันละ 2 ลิตรค่ะ โดยที่ได้มีผลการทดลองออกมาแล้วว่า ระหว่างผิวของคนที่ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วทุกวัน กับคนที่ดื่มน้ำไม่ถึงเกณฑ์นั้น สุขภาพผิวต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

อีกทั้งในเรื่องของความกระจ่างใสของผิวที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังภาพด้านล่างนี้ที่ถูกแชร์กันไปหลายครั้งก็พอจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำคัญของ ลดน้ำหนัก “น้ำ” ที่มีต่อ “ผิวพรรณ” ได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในบทความนี้ นอกจากการแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้วแล้ว ขอแนะนำให้เพื่อนๆลองดื่มน้ำเมื่อตื่นนอนทันที 2 แก้ว ติดต่อกันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน จะพบว่าผิวดูขาวกระจ่างใสขึ้น และดูมีสุขภาพดีขึ้นมาก

นอกจากนี้การดื่มน้ำในช่วงเช้าหลังตื่นนอน ชาลดน้ำหนัก ยังช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยในเรื่องของการขับถ่ายให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะร่างกายของเราประกอบไปด้วยน้ำกว่า 70 เปอร์เซ็น ดังนั้นอย่าละเลยเคล็ดลับการดูแลผิวดีๆแบบนี้นะคะ

โดยส่วนตัวเเล้วแอดมินแนะนำให้บำรุงผิวทั้งจากภายนอก ชาสมุนไพร และภายในไปพร้อมๆกัน ภายนอกแน่นอนว่าเป็นการใช้ครีมทาผิวขาวนำมาทาบำรุงผิวเพื่อช่วยปรับสีผิวให้สว่าง แลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนภายในแนะนำเป็นการดูแลตัวเองหลายๆองค์ประกอบนำมาประกอบกัน เช่น การดื่มน้ำสะอาดตามที่ได้แนะนำไป การไม่นอนดึก ไม่เครียด เป็นต้น เท่านี้ก็เป็นการดูแลผิวที่รักได้เป็นอย่างดีแล้วค่ะ

ครีมนั้นก็มีหลายอย่างหลายชนิดมีทั้งดีและไม่ได้ หลายคนอาจจะเกิดคำถามตามมาว่ามันจะดีหรือไม่ดีเราจะรู้ได้อย่างไร ขอแค่เป็นของที่มีการผ่าน อย.และได้มาตรฐานเป็นของแท้รับรองว่าครีมทุกตัวใช้ได้ดีแน่นอนอยู่ที่ว่าประสิทธิภาพของแต่ละตัวนั้นจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าส่วนผสมของครีมนั้นคืออะไรมีคุณสมบัติเพื่ออะไรเมื่อเราใช้   ครีมโสมหรือโสมเกาหลีอะไรทำนองนี้เชื่อเลยว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแล้ว บางคนก็เคยลองใช้มากันบ้าง มาดูกันต่อว่าความจริงคืออะไรเป็นอะไรกันแน่สำหรับเรื่องเกี่ยวกับครีมโสมที่จะมาดูแลผิวของเรา

อยากแรกเลยปกติตามท้องตลาดนั้นมีครีมที่มีสูตรตามที่โรงงานผลิตอยู่แล้ว จากนั้นก็มีการจ้างทำครีมและสั่งให้โรงงานผลิตอีกทีเพื่อสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา แต่ในเรื่องของส่วนผสมนั้นจะใส่ลงไปในครีมปริมาณเท่าไรนั้นก็อยู่กับที่ผลิตและเจ้าของแต่ว่าไม่ใส่เยอะแน่นอนเพราะอะไรนะหรือไม่ต้องถามยากเลย ถ้าใส่เยอะก็มีหวังขาดทุนกันพอดี อีกอย่างของความจริงแห่งครีมคือส่วนผสมหากไม่ได้มาตรฐานอาจจะทำให้ขาวได้บ้างในบางตัวหรือบางตัวมีการใส่เยอะเกินไปจะทำให้ขาวจนผิวลอกได้เช่นกัน หรือบางตัวก็ไม่ได้ผลอะไรเลยเปลืองเงินเปล่าๆ ยังมีเหตุผลอื่นๆอีกมากมายที่เราต้องเป็นทาสของครีมเหล่านี้

ก่อนที่จะชวนคุยออกนอกโลกไปเราวกกลับมาในเรื่องโสมเราบ้างดีกว่า ครีมโสมนั้นกีความหลากชนิดกันไปหลายๆคนก็ตีความไปตามความเข้าใจของตัวเองต่างกันไป อาจจะบอกกันไปว่าครีมโสมเป็นครีมเกาหลี ครีมจากเมืองนอก มันทำมาจากโสมโดยแท้ อะไรก็ว่ากันไป สรุปก็คือครีมโสมเหมือนกัน แต่ว่ามันจะยากตรงที่แยกระหว่างครีมโสมของปลอมกับของจริง เพราะถ้าเจอของปลอมมาใช้อาจจะผลข้างเคียงหลายๆอย่างต่อร่างกายต่อผิวเราได้ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญและละเอียดอ่อน

วิธีสังเกตของปลอมของครีมโสม

เวลาจะซื้อครีมโสมต้องสังเกตอะไรบ้างเพื่อไม่ให้โดนหลอกมาดูกัน

1.ครีมโสมจะไม่มีการเปิดหารนะ ไม่มีเลยถ้าเห็นว่ามีเปิดหารนั่นคือเจอของปลอมเข้าแล้วอย่างชัวร์เลย อย่ามัวแต่ดีใจกับราคาที่แสนถูกเพราะเปิดหารนะเพราะว่าผิวเราอาจจะไม่ถูกด้วยก็ได้ เสียหายกันยกใหญ่จ่ายแพงกว่าเดิมอีกงานเข้าล่ะทีนี้ ทางที่ดีเลี่ยงการเปิดหารไปให้ไกลเลยปลอดภัยกว่า

2.ข้อต่อมาที่ต้องสังเกตให้ดีคือการเพิ่มความน่าเชื่อถือของครีมจากการรีวิวครีมโสม เพราะว่าครีมโสมจะไม่มีการรีวิวที่เป็นทางตัวแทนจัดให้ คือจะเป็นรีวิวของครีม Whilt pearl และของปลอมนั้นก็ไม่ได้น้อยหน้ากันเลยจะใช้ชื่อในการนำเสนอคล้ายๆกันอันนี้ค่อนข้างจะดูยากนิดนึงต้องระวังดีๆ

3.มีใครเคยใช้ครีมแบบเป็นโลชั่น แบบขวดบ้าง หรือซื้อมาเป็นกิโล จะบอกว่าคุณเจอของปลอมเข้าแล้วล่ะเพราะว่าครีมโสมนั้นจะไม่มีการแบ่งขายเป็นกิโลๆ ไม่มีการขายเป็นขวดโลชั่น ครีมโสมจะมีการขายเพียงแค่เป็น 30 กรัม และ 120 กรัมเท่านั้น หลายๆคนอาจจะคิดว่าเป็นบรรจุพันธ์ตัวใหม่หรือเปล่าเลยลองซื้อมาใช้ดู ยังไม่มีเลยแต่อย่างใด มีแต่ของปลอมเท่านั้นที่จะมีความเป็นขวดหรือแบ่งขาย ฉะนั้นเมื่อทราบข้อนี้แล้วรีบโยนของปลอมลงถึงอย่างเร็วก่อนที่ผิวจะเสียหายไปมากกว่านี้

4.มาดูในเรื่องของราคากันบ้างเรทราคาก็มาส่วนทำให้เรารู้ได้ว่าอันไหนของปลอมของจริง ราคาขายของครีมโสมจะไม่แพงมากและจะไม่ถูกเกินไป ราคาจะอยู่ที่ราวๆประมาณ 320 บาท ราคานี้เป็นราคาครีมเพียงอย่างเดียวยังไม่ได้บวกรวมกับค่าขนส่ง เมื่อบวกแล้วราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามระบบขนส่งที่ท่านเลือกแต่ถ้าท่านเจอครีมโสมที่ราคาถูกว่า 320 นั่นเสียงต่อการเจอของปลอมเข้าแล้วเพราะบางคนอาจจะลดราคาก็ไม่ว่ากันต้องมีการตรวจเช็คให้ดีก่อนการสั่งซื้อเพื่อสุขภาพผิวของท่าน แทนที่มันจะสวยขาวขึ้นมาอาจจะทำให้แย่กว่าเดิมก็เป็นได้

เนื่องจากโลกปัจจุบันนี้ทุกอย่างมันไปเร็วครีมก็มีให้เลือกหลายตัวตามท้องตลาดครีมโสมก็เป็นหนึ่งในครีมนั้นที่เป็นตัวเลือกให้คุณ ของปลอมแพร่ระบาดในวงการเครื่องสำอางเห็นขจากข่าวๆต่างๆที่แสดงให้เห้นความครีมโสมหรือครีมอื่นๆที่เป็นของปลอมนั้นนอกจากจะไม่ช่วยให้ผิวดีขึ้นแล้วยังจะเป็นตัวที่ทำลายผิวให้เกิอาการแพ้ต่างๆขึ้นได้ เมื่อท่านได้ทราบข้อมูลของการซื้อครีมโสมอย่างไรให้ไม่โดนของปลอมแล้วจะทำให้ผิดมีความปลอดภัยได้ในรดับหนึ่งอย่างน้อยก็เป็นของแท้มีใบรับรอง และไม่เป็นอันตรายต่อผิวหากแพ้ก็ไม่มากและทางบริษัทสามารถรับผิดชอบช่วยได้ แต่ถ้าเจอของปลอมมาเกิดอะไรขึ้นถามหาคนรับผิดชอบคงไม่มีอย่างแน่นอนอีกทั้งเรายังต้องได้เสียเงินเพิ่มมากมายเพิ่มรักษาผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอีกด้วย ฉะนั้นแล้วหากอยากสวยต้องรอบคอบแล้วจะสวยแน่นอน

สาวๆ อย่างเราหรือแม้แต่ผู้ชายบางคนในสมัยนี้ ก็หันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น หากอยากผิวขาวใส อยากสวย ก็คงต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ แต่ถ้าอยากให้ผิวของเราสวยสุขภาพดีก็ต้องใช้ธรรมชาติบำรุงผิวเช่นกัน วันนี้เรามี 3 สูตรสปาผิวให้สวยด้วยผลไม้มาฝากสาว ๆ ค่ะ

1.สับปะรดแช่เย็น

ด้วยเอนไซม์จากผลไม้รสเปรี้ยวอย่างสับปะรดจะช่วยเสกผิวนุ่ม เมื่ออาบน้ำเสร็จ เพียงนำเอาสับปะรดมาผ่าเป็นซีกแล้วแช่แข็งไว้ในตู้เย็น แล้วเอามาขัดให้ทั่วตัวประมาณ 5 นาที แล้วทิ้งไว้อีก 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด เช็ดออกให้แห้งแล้วทาโลชั่นได้เลย สูตรนี้ให้ทำวันเว้นวันก็จะได้ผลดี

2.มะนาวกับน้ำตาลทราย

ผิวของเราจะนุ่มและกระจ่างใสขึ้นด้วยมะนาวกับน้ำตาลทราย เพียงน้ำน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำตาลทรายละเอียด 3 ช้อนโต๊ะมะผสมกัน แล้วนำมาขัดผิวทันทีประมาณ 1 นาที แล้วทิ้งไว้ 3 นาที จึงล้างออก ขอบอกผิวของคุณสาว ๆ จุ่มอย่าบอกใคร

3.ฝรั่งเพื่อผิวใส

ในฝรั่งหนึ่งผลจะประกอบไปด้วยวิตามินซีที่สูงมาก จึงเป็นอีกสูตรหนึ่งที่ใช้พอกเพื่อผิวที่กระจ่างใสขึ้น เพียงนำเนื้อฝรั่งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาพอกผิวของเรา ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก ให้ทำประมาณสัปดาห์ละครั้งจะช่วยให้สาวๆ ผิวใสขึ้น